มหาวิทยาลัยฯ มีความตั้งใจที่จะทำให้เกิดความแตกต่างจากระบบการศึกษาทั่วไปในปัจจุบัน เราดำเนินการที่แตกต่างจากสถาบันการศึกษาในปัจจุบัน มีตัวอย่างดังต่อไปนี้
- มหาวิทยาลัยโพธิศาสตร์ USA เปิดการเรียนการสอนในระบบทางไกล ไม่ได้จดทะเบียนในประเทศไทย ไมใช่การศึกษาในระบบปริญญาที่ใช้ในการสมัครงานหรือการหางานทำ การรับรองปริญญาของมหาวิทยาลัย เป็นเงื่อนไขของแต่ละประเทศ ที่จะพิจารณาตามนโยบายของประเทศนั้น จุดประสงค์ของมหาวิทยาลัย คือ การจัดการเรียนรู้เกี่ยวกับความดี ความงาม การประกอบสัมมาชีพ การสร้างเปลี่ยนแปลง และการประยุกต์หลักพุทธศาสนา มาใช้ในการปฏิบัติ อาจจะมีองค์ความรู้ด้านวิชาการตามศาสตร์สมัยใหม่มาประกอบการเรียนรู้ด้วย
- ปริญญาตรี ให้เขียนสารนิพนธ์ คืออธิบายงานที่ นศ.ทำ จนประสบความสำเร็จแล้ว ปริญญาโท ให้เขียนวิทยานิพนธ์ คือวิเคราะห์งานที่ นศ.ทำ ว่า ประสบความสำเร็จด้วยปัจจัยอะไรบ้าง ปริญญาเอก ให้เขียนดุษฎีนิพนธ์ คือ สังเคราะห์งานที่ นศ.ทำ ว่า มีโมเดลอย่างไร หรือมีรูปแบบอย่างไร ถ้าคนอื่นจะทำตามอย่าง จะต้องมีหลักสำคัญอย่างไรบ้าง การสร้างพิมพ์เขียนให้คนอื่น ๆ การให้คำแนะนำคนอื่นที่จะทำแบบเรา หรือการนำเสนอองค์ประกอบสำคัญที่ทำงานนั้นสำเร็จได้ เป็นต้น
- หัวข้อสารนิพนธ์ ป.ตรี อาจจะขึ้นต้นด้วย “การ…..” เพราะเป็นการอธิบายความผลงานที่เขียน, หัวข้อวิทยานิพนธ์ระดับ ปริญญาโท ต้องขึ้นต้นด้วยคำว่า “ปัจจัย……” , หัวข้อดุษฎีนิพนธ์ ปริญญาเอก ต้องขึ้นต้นด้วยคำว่า “รูปแบบของ…..”
- เมื่อ นศ.สมัครเรียนแล้ว ต้องแจ้งว่า จะทำสารนิพนธ์ หรือ วิทยานิพนธ์ หรือดุษฎีนิพนธ์หัวข้ออะไร เพื่อจะกำหนดทิศทางการทำงาน
- BOU หรือ มพศ. (ชื่อย่อของมหาวิทยาลัยโพธิศาสตร์) ไม่มีหลักสูตรย่อย ๆ แต่จะใช้คำว่า หลักสูตรปริญญาตรี ทางสังคมศาสตร์ หรือปริญญาตรีทางศาสนา หลักสูตรปริญญาโท ทางสังคมศาสตร์ และหลักสูตรปริญญาเอกทางสังคมศาสตร์
- ในระดับปริญญาตรี นศ.ต้องลงมือปฏิบัติการ ลงมือทำจริง จนประสบความสำเร็จเท่านั้น จึงจะมีสิทธิ์เข้ามาสอบจบการศึกษา มพศ. สนใจการทำงานจริง ปฏิบัติการจริง ไม่ต้องการให้ นศ.เข้ามาฟังบรรยาย เข้าฟังผู้สอนนั่งสอนในชั้นเรียน อาจจะมีการสัมมนาเพิ่มความรู้บ้าง อาจจะมีการศึกษาดูงานจากผู้รู้จริง ทำจริง
- แม้ว่า นศ.จะเรียนครบตามหลักสูตร แต่การสำเร็จการศึกษา ชึ้นอยู่กับผลของการปฏิบัติการจยประสบความสำเร็จ
- นศ.บางคน อาจจะมีประสบการณ์ ได้ลงมือทำจนได้สำเร็จแล้ว ซึ่ง น.ศ.กลุ่มนี้ อาจจะไม่ต้องสร้างผลงานใหม่ แต่นำเอาผลงานที่สำเร็จแล้วนั้น มาสรุปเป็นบทเรียน เป็นผลงานแล้วเขียนเป็นเอกสาร ขอเข้ารับการเทียบโอน และการสอบประเมินในภาคการเรียนสุดท้าย
- การสอบจบ ป.ตรี ป.โท หรือ เอก ต้องมีการสอบปากเปล่า หรือการนำเสนอด้วยวาจา จะเขียนฟลิปชาร์ท จะเขียนเพาวเวอร์พอยท์มานำเสนอก็ได้ จากนั้นจึงส่งเล่มฉบับสมบูรณ์ เมื่อกรรมการพิจารณาเล่มแล้ว จึงจะได้รับการประกาศให้สำเร็จการศึกษา