แนวทางการเรียนระดับปริญญาตรี โท เอก

มหาวิทยาลัยฯ มีความตั้งใจที่จะทำให้เกิดความแตกต่างจากระบบการศึกษาทั่วไปในปัจจุบัน เราดำเนินการที่แตกต่างจากสถาบันการศึกษาในปัจจุบัน มีตัวอย่างดังต่อไปนี้

  1. มหาวิทยาลัยโพธิศาสตร์ USA เปิดการเรียนการสอนในระบบทางไกล ไม่ได้จดทะเบียนในประเทศไทย  ไมใช่การศึกษาในระบบปริญญาที่ใช้ในการสมัครงานหรือการหางานทำ  การรับรองปริญญาของมหาวิทยาลัย เป็นเงื่อนไขของแต่ละประเทศ ที่จะพิจารณาตามนโยบายของประเทศนั้น  จุดประสงค์ของมหาวิทยาลัย คือ การจัดการเรียนรู้เกี่ยวกับความดี ความงาม การประกอบสัมมาชีพ การสร้างเปลี่ยนแปลง และการประยุกต์หลักพุทธศาสนา มาใช้ในการปฏิบัติ อาจจะมีองค์ความรู้ด้านวิชาการตามศาสตร์สมัยใหม่มาประกอบการเรียนรู้ด้วย
  2. ปริญญาตรี ให้เขียนสารนิพนธ์ คืออธิบายงานที่ นศ.ทำ จนประสบความสำเร็จแล้ว  ปริญญาโท ให้เขียนวิทยานิพนธ์   คือวิเคราะห์งานที่ นศ.ทำ ว่า ประสบความสำเร็จด้วยปัจจัยอะไรบ้าง  ปริญญาเอก ให้เขียนดุษฎีนิพนธ์   คือ สังเคราะห์งานที่ นศ.ทำ ว่า มีโมเดลอย่างไร หรือมีรูปแบบอย่างไร  ถ้าคนอื่นจะทำตามอย่าง จะต้องมีหลักสำคัญอย่างไรบ้าง  การสร้างพิมพ์เขียนให้คนอื่น ๆ การให้คำแนะนำคนอื่นที่จะทำแบบเรา หรือการนำเสนอองค์ประกอบสำคัญที่ทำงานนั้นสำเร็จได้ เป็นต้น
  3. หัวข้อสารนิพนธ์ ป.ตรี อาจจะขึ้นต้นด้วย “การ…..” เพราะเป็นการอธิบายความผลงานที่เขียน, หัวข้อวิทยานิพนธ์ระดับ ปริญญาโท  ต้องขึ้นต้นด้วยคำว่า “ปัจจัย……” ,   หัวข้อดุษฎีนิพนธ์ ปริญญาเอก ต้องขึ้นต้นด้วยคำว่า “รูปแบบของ…..”
  4. เมื่อ นศ.สมัครเรียนแล้ว ต้องแจ้งว่า จะทำสารนิพนธ์ หรือ วิทยานิพนธ์ หรือดุษฎีนิพนธ์หัวข้ออะไร เพื่อจะกำหนดทิศทางการทำงาน
  5. BOU หรือ มพศ. (ชื่อย่อของมหาวิทยาลัยโพธิศาสตร์) ไม่มีหลักสูตรย่อย ๆ แต่จะใช้คำว่า หลักสูตรปริญญาตรี ทางสังคมศาสตร์ หรือปริญญาตรีทางศาสนา  หลักสูตรปริญญาโท ทางสังคมศาสตร์ และหลักสูตรปริญญาเอกทางสังคมศาสตร์
  6. ในระดับปริญญาตรี นศ.ต้องลงมือปฏิบัติการ ลงมือทำจริง จนประสบความสำเร็จเท่านั้น จึงจะมีสิทธิ์เข้ามาสอบจบการศึกษา  มพศ. สนใจการทำงานจริง ปฏิบัติการจริง ไม่ต้องการให้ นศ.เข้ามาฟังบรรยาย เข้าฟังผู้สอนนั่งสอนในชั้นเรียน  อาจจะมีการสัมมนาเพิ่มความรู้บ้าง อาจจะมีการศึกษาดูงานจากผู้รู้จริง ทำจริง
  7. แม้ว่า นศ.จะเรียนครบตามหลักสูตร แต่การสำเร็จการศึกษา ชึ้นอยู่กับผลของการปฏิบัติการจยประสบความสำเร็จ
  8. นศ.บางคน อาจจะมีประสบการณ์ ได้ลงมือทำจนได้สำเร็จแล้ว ซึ่ง น.ศ.กลุ่มนี้ อาจจะไม่ต้องสร้างผลงานใหม่ แต่นำเอาผลงานที่สำเร็จแล้วนั้น มาสรุปเป็นบทเรียน เป็นผลงานแล้วเขียนเป็นเอกสาร ขอเข้ารับการเทียบโอน และการสอบประเมินในภาคการเรียนสุดท้าย
  9. การสอบจบ ป.ตรี ป.โท หรือ เอก ต้องมีการสอบปากเปล่า หรือการนำเสนอด้วยวาจา จะเขียนฟลิปชาร์ท จะเขียนเพาวเวอร์พอยท์มานำเสนอก็ได้   จากนั้นจึงส่งเล่มฉบับสมบูรณ์ เมื่อกรรมการพิจารณาเล่มแล้ว จึงจะได้รับการประกาศให้สำเร็จการศึกษา

Related posts

สถาบันกัญชาศาสตร์ภาคประชาชน เปิดรับสมัครผู้เรียน รุ่นที่ ๓

หลักสูตรกัญชาศาสตร์เพื่อประชาชน รุ่นที่ 4

วิธีวิทยาว่าด้วยวิจักษณ์